วิธีดู Netflix ที่ง่ายที่สุดสำหรับคนทั่วไป คือการดูผ่านเว็บเบราเซอร์บนคอมพิวเตอร์ เช่น Google Chrome หรือ Firefox เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ Netflix.com ตามปกติ แต่สำหรับคนที่ต้องการรับชมบนทีวีต้องทำอย่างไร?
สมาร์ททีวีรุ่นใหม่ๆ มาพร้อมกับแอป Netflix ในตัว ซึ่งแปลว่าคุณไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใด ๆ เพียงแค่เปิดแอปผ่านโทรทัศน์ของคุณก็สามารถดู Netflix บนจอใหญ่ได้อย่างสบายตา โดยที่ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปมาใช้บนทีวีเท่านั้น (อ่านวิธีดาวน์โหลดแอปของสมาร์ททีวีด้านล่าง)
แต่หากทีวีของคุณเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่ไม่มีแอป Netflix ติดตั้งมาในตัว หรือระบบไม่รองรับ เราแนะนำว่าคุณอาจซื้อ Google Chromecast เพื่อใช้เล่น Netflix บนทีวีเครื่องเดิม ไม่ต้องลงทุนซื้อทีวีรุ่นใหม่ โดยสามารถอ่านวิธีติดตั้ง Chromecast ได้ข้างล่างนี้
สารบัญ
- วิธีดู Netflix บนทีวีส่วนใหญ่
- วิธีติดตั้งแอป Netflix บนทีวี
- Chromecast คืออะไร
- วิธีติดตั้ง Chromecast กับทีวีบ้าน
- วิธีอื่น ๆ สำหรับดู Netflix บนทีวี
วิธีดู Netflix บนทีวีส่วนใหญ่
ทีวีรุ่นใหม่ ๆ จำนวนมาก เช่น Smart TV ของ Samsung, LG และ Sony หลายรุ่นมาพร้อมกับรีโมทที่มีปุ่ม Netflix ทำให้คุณสามารถเปิดแอปพลิเคชัน Netflix ที่ติดตั้งมาแล้วในทีวีได้ทันที
สำหรับทีวีรุ่นที่ไม่มีปุ่ม Netflix บนรีโมท สามารถเข้าแอป Netflix ได้โดยกดปุ่มต่างๆ เช่น Smart Hub หรือ Internet@TV สำหรับทีวีซัมซุง โดยจะต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านสาย Lan หรือ Wi-Fi ไว้ก่อน เมื่อเข้าไปหน้าแอปบนทีวีแล้ว ก็จะต้อง Sign-in ตามคำแนะนำบนหน้าจอ
อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ คือ การ Cast วิดีโอจาก Netflix บนมือถือขึ้นทีวี โดยจะต้องเชื่อมต่อมือถือของคุณเข้ากับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันกับทีวี จากนั้นเข้าไปดู Netflix ผ่านทางมือถือ แล้วกดปุ่ม Netflix Second Screen ด้านขวาบนเพื่อฉายขึ้นจอ โดยโลโก้ด้านขวาบนขึ้นมาก็ต่อเมื่อระบบสามารถตรวจจับได้ว่ามี Smart TV ที่รองรับอยู่ใน network เดียวกัน โดยที่ต้องเคย Sign-in ผ่านทีวีไว้ก่อนแล้ว
วิธีติดตั้งแอป Netflix บนทีวี
หากไม่มีแอปหรือเผลอลบไป สามารถติดตั้งใหม่ได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนดังนี้
สำหรับทีวี LG
- เข้าไปที่ LG Content Store เพื่อเลือก Netflix แล้วกดติดตั้ง
- หากหาแอปไม่เจอ ทำตามวิธีการตรวจสอบการตั้งค่าประเทศดังต่อไปนี้
- เลือกปุ่ม Home บนรีโมท
- เลือกไอคอนรูปเฟืองเกียร์ที่มุมบนขวา
- เลือก การตั้งค่าชั้นสูง หรือ การตั้งค่าทั้งหมด → เลือก ทั่วไป → เลือก ตั้งค่าประเทศ
สำหรับทีวี Panasonic
- กดที่ปุ่ม Apps บนรีโมท
- เลือกไปที่ App Marketplace หรือ Apps Market และกด OK
- รายชื่อแอปจะแสดงขึ้นมาตามหมวด ให้เลือกหมวด Video ที่แถบด้านซ้ายของจอ
เลื่อนรายการไปเรื่อยๆ จนเจอแอป Netflix - เลื่อนแถบเพื่อไฮไลท์ที่ชื่อแอป จากนั้นกดเลือก Install เพื่อติดตั้ง
สำหรับทีวีในกลุ่ม Android TV ของ Sony และ Samsung หรือยี่ห้ออื่นๆ
- กดที่ปุ่ม HOME หรือ Smart Hub บนตัวรีโมทคอนโทรล
- เลือกที่แอป Google Play Store ในหมวดของ Apps หรือเลือก “Get more apps”
- ค้นหาหรือเลือกแอป Netflix จากรายการที่แสดงขึ้นมาเพื่อติดตั้ง
Chromecast คืออะไร
Chromecast เป็นอุปกรณ์สตรีมมิ่งขนาดเล็กของ Google ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวรับส่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเข้าสู่ทีวี โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกรับชมผ่านแอปต่าง ๆ อุปกรณ์หรือกล่องสตรีมมิ่งแบบนี้มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ที่มีวางขายทั่วไปในไทย ได้แก่ Apple TV ของแอปเปิล และ Chromecast
ถ้าหากทีวีของคุณเป็นรุ่นเก่าลงมาหน่อย Chromecast เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต และ Wi-fi โดยยังสามารถสตรีมเนื้อหาจากผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ เช่น YouTube และ HBO GO ได้อีกด้วย
ข้อดี
- ราคาที่ถูกกว่าตัวเลือกอื่น ๆ เช่น Apple TV หรือ Android Box อื่นๆ
- การติดตั้งที่ไม่ยุ่งยาก และความสะดวกในการพกพาไปใช้กับทีวีเครื่องอื่น ๆ ได้ง่าย
ข้อเสีย
- ไม่มีรีโมท นั่นทำให้คุณจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเลตในการสั่งการแทน
- ต้องใช้งานผ่าน Wi-Fi เท่านั้น
Chromecast จะต้องอาศัยโทรศัพท์มือถือในการใช้งาน เราเชื่อว่าคนส่วนมากมีโทรศัพท์มือถือติดตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงไม่ถือเป็นความลำบากมากนัก
นอกจากนี้ เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ต้องการเสียเงินเกิน 2,000 บาทในการซื้ออุปกรณ์สตรีมมิ่ง โดย Chromecast ยังถือว่ามีราคาถูกกว่าอุปกรณ์สตรีมมิ่งหลาย ๆ รุ่น เช่น Apple TV ที่มีราคาแพงกว่าราว 4 เท่า และสามารถย้ายไปใช้งานในห้องอื่น ๆ ภายในบ้านได้ง่ายกว่า รวมทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บและเปิด-ปิดเครื่อง
วิธีติดตั้ง Chromecast
สิ่งที่จำเป็นต้องใช้
- ทีวีที่มีพอร์ท HDMI และอยู่ในระยะที่เชื่อมต่อ Wi-fi ได้
- Chromecast
- อินเทอร์เน็ต Wi-fi ที่บ้าน
- โทรศัพท์มือถือ iOs หรือ Android
วิธีติดตั้งและใช้ Chromecast
- เตรียมความพร้อมด้วยการเปิด Wi-fi และเชื่อมต่อมือถือของคุณเข้ากับ Wi-fi นั้น
- เสียบ Chromecast เข้ากับพอร์ท HDMI ซึ่งมักอยู่ด้านหลังของทีวี
- อีกด้านหนึ่งของสายจะเป็นหัว USB ซึ่งมีไว้รับกระแสไฟฟ้า
- ถ้าทีวีของคุณมีช่อง USB ที่เสียบถึง ให้เสียบสาย USB ไปที่ช่องนั้นเพื่อรับไฟจากทีวี
- หากทีวีของคุณไม่มีช่องเสียบ USB ให้ใช้ Adaptor ที่มีมาด้วยในกล่องเสียบเข้ากับเต้ารับตามปกติ
- เปิดทีวีเพื่อเริ่มติดตั้ง โดยกดปุ่ม input หรือ source ที่รีโมทไปยังช่อง HDMI (1, 2, หรือ 3) จนเจอหน้าจอติดตั้งของ Chromecast โชว์ขึ้นมา
- บนมือถือของคุณ ดาวน์โหลดแอป Google Home สำหรับ iOS หรือ Android และเชื่อมต่อ Wi-fi ถ้าคุณใช้ไอโฟนหรือไอแพดให้เปิดบลูทูธด้วย ระหว่างนี้ให้เปิดทีวีค้างไว้หน้าเดิม
- เมื่อเชื่อมต่อแล้ว กดเปิดแอปบนมือถือขึ้นมา หากแอปไม่เริ่มสแกนโดยอัตโนมัติ ให้กดแท็บ Devices
- (บนไอโฟนจะเป็นรูปจอคอมพิวเตอร์และลำโพงด้านขวาบนของแอป)
- แอปจะค้นหา Chromecast จนเจอ จากนั้นให้กด Setup เพื่อติดตั้งต่อไป
- กด Setup หรือ ติดตั้งตามคำแนะนำ (หลังจากติดตั้งเรียบร้อยครั้งนี้ คุณไม่ต้องทำแบบนี้อีกแล้ว)
- กดที่ “I see the code” ถ้ารหัสบนจอทีวีของคุณตรงกับเลขที่โชว์อยู่ในแอป
- ตั้งชื่อ Chromecast ของคุณ เพื่อแยกแยะในกรณีที่เพื่อนบ้านของคุณมี Chromecast เหมือนกัน หรือในอนาคตเมื่อต้องการติดตั้งมากกว่าหนึ่งจุด
- เลือก Wi-fi ของคุณและใส่พาสเวิร์ด Wi-fi ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะมีไว้ให้ตัว Chromecast เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตัวเองในอนาคต
- หลังจากนั้น Chromecast อาจทำการอัพเดทตัวเองโดยอัตโนมัติ ให้รอจนเสร็จโดยอย่าเพิ่งปิดทีวี หรือ Wi-fi ใด ๆ
วิธีใช้งานหลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว
- เปิดแอป Netflix บนมือถือและเลือกเนื้อหาที่คุณต้องการจะดูตามปกติ เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วคุณจะสังเกตสัญลักษณ์ Chromecast ทางมุมขวาบนของหน้าจอ กดปุ่มนั้นและเลือก Chromecast ของคุณตามชื่อที่ตั้งไว้
- รอสักครู่ Chromecast จะเชื่อมต่อกับแอปและเริ่มแสดงภาพบนจอทีวี (ยินดีด้วย!)
- ใช้มือถือควบคุมแทนรีโมท โดยหลังจากที่คุณ Cast ขึ้นจอทีวีไปแล้ว คุณสามารถทำอย่างอื่นบนมือถือได้ โดย Chromecast จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและสตรีมเนื้อหาต่อไป
วิธีดู Netflix บนทีวีแบบอื่น ๆ
ต่อสาย HDMI หรือ DVI จากคอมพิวเตอร์
คุณสามารถดู Netflix บนทีวีผ่านการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้เช่นกัน ถึงแม้จะไม่สะดวกเท่ากับวิธีอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณมีพอร์ท HDMI คุณสามารถใช้สาย HDMI เชื่อมต่อสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ไปยังทีวีได้ และเข้าชมผ่านทางเบราเซอร์ตามปกติ โดยควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
แต่ถ้าคุณจะใช้พอร์ทอย่าง DVI or VGA มันจะมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นอีกในการต่อสายสัญญาณเสียง อย่างไรก็ตาม หากคุณมีงบพอ เราแนะนำให้ใช้ Chromecast เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีกว่า
Roku
หากคุณสามารถหาซื้อ Roku Streaming Stick ได้ในต่างประเทศ เว็บไซต์ในต่างประเทศหลายแห่งแนะนำว่าเป็นวิธีที่ดีและถูกที่สุดในการใช้งานสตรีมมิ่ง ซึ่งอุปกรณ์สตรีมมิ่งของ Roku นั้นทำงานคล้ายกับ Apple TV และ Chromecast โดยมาพร้อมกับรีโมทที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณ ใช้บริการสตรีมมิ่งหลาย ๆ เจ้า Roku ในราคาประมาณ 1,600 บาทนี้ ยังมีออปชั่นค้นหาสิ่งที่คุณอยากดูจากบริการทั้งหมดในที่เดียว
เครื่องเกมคอนโซล
ถ้าคุณเป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมต่อไปนี้ PlayStation 4, PlayStation 3, Xbox One, Xbox 360, Wii U และ Wii ลองเข้าไปในส่วนที่เรียกว่า TV & Video, Apps หรือ Nintendo eShop เพื่อดาวน์โหลดแอป Netflix มาใช้งานไม่ต่างกับใน Smart TV
Apple TV
Apple TV รุ่นล่าสุด (Gen 4) มีราคาอยู่ที่ 6,900 บาท ซึ่งรองรับการสตรีมวิดีโอที่ความคมชัดระดับ 4K แต่หากคุณต้องการดู Netflix เป็นหลักและไม่ได้มีทีวีที่รองรับความคมชัด 4K มันแทบไม่มีเหตุผลที่คุณต้องเสียเงินมากขนาดนี้เพื่อดู Netflix โดยเฉพาะ แต่หากคุณต้องการใช้รีโมท ชอบดีไซน์ของ Apple TV และต้องการซื้อหนังผ่าน iTunes หรือ Amazon คุณสามารถลงทุนเพิ่มได้เช่นกัน หรือหากงบไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ เราแนะนำให้ลองมองหาสมาร์ททีวีที่มาพร้อมกับแอปในตัวประกอบการตัดสินใจ
Mi Box S
หนึ่งใน Android Box รุ่นยอดนิยมในไทยได้แก่ Mi Box S ของ Xiaomi ซึ่งมาพร้อมกับ รีโมทและฟังก์ชั่นที่ใกล้เคียงกับ Chromecast แต่สิ่งที่เราไม่ชอบ นอกจากราคาที่แพงกว่าแล้ว (ราว 2,500 บาท) คือวัสดุที่ใช้ รวมถึงการติด ถึงแม้มันจะรองรับ 4K เราคิดว่า ทีวี 4K ส่วนใหญ่ก็มาพร้อมกับแอป Netflix ในอยู่แล้ว แต่อาจมีข้อดีสำหรับคนที่ต้องการเล่นไฟล์จากแฟลชไดร์ฟ