วิกฤตมลพิษทางอากาศของกรุงเทพฯ ที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยเฉพาะปริมาณ ฝุ่น PM 2.5 ในหลายพื้นที่ ทำให้หลายคนมองหา เครื่องฟอกอากาศ (air purifier) ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยลดฝุ่นของอากาศภายในบ้านได้
ฝุ่น PM 2.5 นั้นได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจและเส้นเลือด เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่า 3% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม นั้นสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และเราจำเป็นต้องใช้หน้ากากป้องกันชนิด N95 ซึ่งมีฟิลเตอร์ละเอียดพอในการป้องกันฝุ่น
สำหรับการเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับกรองฝุ่น PM2.5 เราควรดูรายละเอียดของไส้กรองหรือฟิลเตอร์เพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถกรองฝุ่นได้ในขนาดเล็กที่สุด โดยเว็บไซต์ในต่างประเทศหลายแห่งแนะนำว่าควรจะน้อยกว่า 0.3 ไมครอนลงไปเป็นอย่างน้อย
เราได้รวบรวมเครื่องฟอกอากาศหลายรุ่นของยี่ห้อที่ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งระบุว่าสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มาไว้ข้างล่างนี้
หมายเหตุ: เครื่องฟอกอากาศหลายรุ่นนั้นสินค้าหมดสต็อกในตอนนี้ และมีร้านบางส่วนสั่งซื้อจากห้างร้านเพื่อมาบวกราคาขายต่ออีกทอดหนึ่ง ทำให้ราคาสูงกว่าปกติ เราแนะนำว่า หากคุณสามารถรอได้อีกสักหน่อย คุณควรสั่งซื้อจาก official store ของแต่ละแบรนด์ เช่น Sharp, Philips, Xiaomi หรือ Dyson เพื่อให้ได้สินค้าและการรับประกันที่เชื่อถือได้
เครื่องฟอกอากาศ ขนาดกะทัดรัดของ Sharp รุ่นนี้ เหมาะสำหรับยกไปใช้งานในห้องต่าง ๆ ภายในบ้านได้ โดยฟิลเตอร์แบบ HEPA ของรุ่นนี้ระบุว่าสามารถดักจับจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% เช่นเดียวกับรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกหลายรุ่น ในราคาที่ประหยัดกว่า
เครื่องฟอกอากาศ ของ Phillips รุ่นนี้ ระบุว่าสามารถกรองฝุ่นขนาด 0.02 um หรือ 0.02 ไมครอนได้ นอกจากนี้ ยังมีโหมด NightSense ที่จะเบาเสียงและหรี่ไฟสำหรับเปิดทิ้งไว้ขณะนอนหลับ รวมถึงการแจ้งเตือนมือถึงเวลาต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานในขณะที่ฟิลเตอร์มีฝุ่นเกินกำหนด ซึ่งจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
Bwell AC-2104
สำหรับพื้นที่ 20-40 ตารางเมตร
ราคา 14,240 บาท (ดูเหมือนสินค้าจะหมดชั่วคราว)
หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหาของคุณ คุณอาจพิจารณารุ่น Bwell AC-2104 ซึ่งเพิ่มการกรองอากาศขึ้นมาอีกขั้นตอนรวมเป็น 7 ขั้นตอน
นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ HEPA ที่ละเอียดกว่า ซึ่ง Bwell อ้างว่าสามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กถึง 0.008 ไมครอนได้ 99.97% โดยกำลังลมของรุ่นนี้นั้นเหมาะกับการใช้งานในห้องขนาด 20-40 ตร.ม.
SHARP KC-G50TA เป็นเครื่องฟอกอากาศของที่ถูกออกแบบมาสำหรับห้องขนาด 30-40 ตร.ม. มันมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ 6 ประเภท ที่ใช้ตรวจจับสภาพแวดล้อมและปรับระบบการทำงานอัตโนมัติ รวมถึงมีฟังก์ชั่น PM 2.5 ไว้ตรวจวัดปริมาณฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนลงไป
นอกจากระบบฟอกอากาศแบบ 6 ขั้นตอนแล้ว HEPA filter ของรุ่นนี้ยังระบุว่าสามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%
Dyson Pure Cool
สำหรับพื้นที่ 30-35 ตารางเมตร
ราคา 26,010 บาท (ดูเหมือนสินค้าจะหมดชั่วคราว)
พัดลมฟอกอากาศแบบตั้งพื้น Dyson Pure Cool ที่หลายคนกำลังพูดถึง มีระบบกรองอากาศที่ระบุว่าดักจับฝุ่นและมลพิษที่มีอุนภาคเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.95%
มันยังพร้อมกับฟังก์ชั่นตรวจจับและบันทึกได้คุณภาพอากาศ ซึ่งรีวิวของ Wired.com ระบุว่าสามารถทำงานได้แม่นยำ เช่น สังเกตได้ว่าค่าฝุ่น PM10 และ PM 2.5 เพิ่มขึ้นตอนกลางคืนเมื่อลุกออกจากเตียง (เนื่องจากฝุ่นละอองจากเตียง) เพื่อการรับประกันที่เชื่อถือได้เราแนะนำว่าให้สั่งจาก official store ของ Dyson
รีวิวแนะนำ
- น้ำพุแมว ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริง
- พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) ยี่ห้อและรุ่นไหนดีที่สุด
- Garmin รุ่นไหนดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริง
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดีที่สุด สำหรับการใช้งานจริง
Bwell CF-8608
สำหรับพื้นที่ 40-80 ตารางเมตร
ราคา 31,340 บาท (ดูเหมือนสินค้าจะหมดชั่วคราว)
สำหรับคนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้ในสำนักงาน หรือห้องโถงของบ้าน เราคิดว่าเครื่องฟอกอากาศของ Bwell รุ่นนี้อาจเหมาะที่สุด เพราะมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานในห้องที่มีขนาดกว้าง 40-80 ตร.ม. และยังมาพร้อมกับระบบฟิลเตอร์ 7 ขั้นตอน และฟิลเตอร์ที่กรองฝุ่นขนาด 0.008 ไมครอน เช่นเดียวกับ AC-2104