วิกฤตมลพิษทางอากาศของกรุงเทพฯ ที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยเฉพาะปริมาณ ฝุ่น PM 2.5 ในหลายพื้นที่กลับมาอีกครั้ง ทำให้หลายคนมองหา เครื่องฟอกอากาศ (air purifier) ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยลดฝุ่นของอากาศภายในบ้านได้
ฝุ่น PM 2.5 นั้นได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจและเส้นเลือด เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่า 3% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม นั้นสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และเราจำเป็นต้องใช้หน้ากากป้องกันชนิด N95 ซึ่งมีฟิลเตอร์ละเอียดพอในการป้องกันฝุ่น
สำหรับการเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับกรองฝุ่น PM2.5 เราควรดูรายละเอียดของไส้กรองหรือฟิลเตอร์เพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถกรองฝุ่นได้ในขนาดเล็กที่สุด โดยเว็บไซต์ในต่างประเทศหลายแห่งแนะนำว่าควรจะน้อยกว่า 0.3 ไมครอนลงไปเป็นอย่างน้อย
ผลการทดสอบเครื่องฟอกอากาศโดย “ฉลาดซื้อ”
นิตยสารฉลาดซื้อ ได้สุ่มเครื่องฟอกอากาศ 10 ยี่ห้อมาทดสอบอย่างละเอียด ซึ่งแบ่งเครื่องกอฟอากาศออกเป็น 5 กลุ่ม ตามขนาดพื้นที่ห้องที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับคำโฆษณา
ทั้งนี้ ผลการทดสอบพบว่า ในกลุ่มห้องขนาดเล็ก-เล็กมาก เครื่องฟอกอากาศ 2 ยี่ห้อที่ฉลาดซื้อนำมาทดสอบได้แก่ ยี่ห้อ Clair นั้นไม่สามารถลดปริมาณฝุ่นได้ ขณะที่ยี่ห้อ Blueair สามารถใช้ได้ในห้องขนาด 13.82 ตารางเมตร แต่ไม่เป็นไปตามขนาดที่โฆษณาเอาไว้หรือคู่มือการใช้งาน ได้แก่ ยี่ห้อ Blueair
ขณะที่ กลุ่มเครื่องฟอกสำหรับห้องขนาด 20-30 ตารางเมตร ยี่ห้อที่ทำได้ตามคำโฆษณา ได้แก่ Hitachi, Fanslink, Air D, Sharp และ Bwell ส่วนยี่ห้อที่ทำได้ไม่เท่ากับที่โฆษณา ได้แก่ Hatari และ Mitsuta
ส่วนคนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่กว่า 30 ตารางเมตร ผลการทดสอบของฉลาดซื้อพบว่า เครื่องฟอกของ Philips และ Mi หรือ Xiaomi นั้นสามารถทำงานได้ตามที่โฆษณา
เราได้รวบรวมเครื่องฟอกอากาศรุ่นและยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มาไว้ข้างล่างนี้
เครื่องฟอกอากาศ รุ่นยอดนิยม
Xiaomi Mi Air Purifier 2S
สำหรับพื้นที่ 21-37 ตารางเมตร
ราคา 3,899 บาท (25 ม.ค. 2020)
เครื่องฟอกอากาศของเสียวหมี่ที่ขายดีจนหมดสต๊อกไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา สามารถใช้งานร่วมกับแอปบนสมาร์ทโฟน แถมยังมาพร้อมกับหน้าปัด OLED ที่สามารถระบุปริมาณฝุ่น PM2.5 ในห้องได้ นอกจากนี้ยังมี HEPA Filter ที่อ้างว่ากรองฝุ่นขนาดต่ำกว่า 2.5 ไมครอนได้ถึง 99.99% ประกอบกับดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายยังเป็นจุดเด่นที่หลายคนเลือกซื้อ
เครื่องฟอกอากาศ ขนาดกะทัดรัดของ Sharp รุ่นนี้ เหมาะสำหรับยกไปใช้งานในห้องต่าง ๆ ภายในบ้านได้ โดยฟิลเตอร์แบบ HEPA ของรุ่นนี้ระบุว่าสามารถดักจับจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% เช่นเดียวกับรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกหลายรุ่น ในราคาที่ประหยัดกว่า
สำหรับคนที่มองหาเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้ในสำนักงาน หรือห้องโถงของบ้าน เราคิดว่าเครื่องฟอกอากาศของ Bwell รุ่นนี้อาจเหมาะที่สุด เพราะมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานในห้องที่มีขนาดกว้าง 40-80 ตร.ม. และยังมาพร้อมกับระบบฟิลเตอร์ 7 ขั้นตอน และฟิลเตอร์ที่กรองฝุ่นขนาด 0.008 ไมครอน
พัดลมฟอกอากาศแบบตั้งพื้น Dyson Pure Cool ที่หลายคนกำลังพูดถึง มีระบบกรองอากาศที่ระบุว่าดักจับฝุ่นและมลพิษที่มีอุนภาคเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.95%
มันยังพร้อมกับฟังก์ชั่นตรวจจับและบันทึกได้คุณภาพอากาศ ซึ่งรีวิวของ Wired.com ระบุว่าสามารถทำงานได้แม่นยำ เช่น สังเกตได้ว่าค่าฝุ่น PM10 และ PM 2.5 เพิ่มขึ้นตอนกลางคืนเมื่อลุกออกจากเตียง (เนื่องจากฝุ่นละอองจากเตียง) เพื่อการรับประกันที่เชื่อถือได้เราแนะนำว่าให้สั่งจาก official store ของ Dyson
รีวิวแนะนำ
- น้ำพุแมว ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริง
- พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) ยี่ห้อและรุ่นไหนดีที่สุด
- Garmin รุ่นไหนดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริง
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดีที่สุด สำหรับการใช้งานจริง
เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกที่นี่
แนะนำดีลที่คุ้มที่สุด แจ้งเตือนเดือนละครั้ง