14 วิธีประหยัดไฟฟ้า แบบได้ผลจริง มีอะไรบ้าง

ไม่มีใครอยากจ่ายบิลค่าไฟแพงๆ แต่เราจะทำอย่างไรเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า ในแบบที่ไม่ทำให้ชีวิตเราลำบากจนเกินไป มาลองดู วิธีประหยัดไฟฟ้า ในแบบง่ายๆ ที่ได้ผลจริงกัน

ถ้าคุณทำตามได้ทั้งหมดนี้ เราคิดว่าคำแนะนำเหล่านี้น่าจะช่วยคุณประหยัดไฟไปได้ถึง 10-20% ต่อเดือน ซึ่งพอมาคิดรวมกันทั้งปีแล้วก็เป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

1. ปิดไฟที่ไม่จำเป็น

คำแนะนำนี้อาจฟังดูง่ายๆ แต่ถือเป็นสิ่งที่ช่วยประหยัดไฟได้เห็นผลมากที่สุด หากคุณลืมปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ช่วงสงกรานต์ 4-5 วัน นั่นอาจเพิ่มค่าไฟสูงถึง 200 บาท ในเดือนนั้น

หากต้องการเปิดไฟช่วงกลางคืน แนะนำให้ใช้ สวิทช์ตั้งเวลา หรือ โคมไฟ Solar Cell ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ ซึ่งปัจจุบันมีราคาถูกและในระยะยาวสามารถช่วยประหยัดไฟได้มาก

2. ใช้แสงแดดธรรมชาติ

สำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า เราสามารถใช้แสงอาทิตย์ทดแทนได้ เช่น ตากผ้าแทนการใช้เครื่องอบผ้า (Dryer) หรือ เปิดม่านเพื่อให้แสงอาทิตย์ส่องสว่างห้องแทนการเปิดไฟช่วงกลางวัน เป็นต้น

3. อย่าเป่าผมนานเกินไป

ไดร์เป่าผม นั้นใช้กำไฟจำนวนมากเพื่อผลิตลมร้อน ทำให้มันกินไฟพอๆ กับ เครื่องทำน้ำอุ่น ไมโครเวฟ เลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรใช้งานให้สั้นลงจะสามารถช่วยประหยัดไฟได้มาก นอกจากนี้ การไฟฟ้ายังแนะนำให้เช็ดผมก่อนเป่าผม รวมถึงสางผมไปด้วยขณะเป่า เพื่อช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น และลดการใช้ไฟฟ้าลงได้

4. เครื่องดูดฝุ่น

เครื่องดูดฝุ่น หรือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ปัจจุบันอาจใช้ไฟฟ้าไม่มากเท่าแต่ก่อน แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่เราใช้นานหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์ เราแนะนำว่าควรนำฝุ่นในถุงทิ้งทุกครั้งที่ใช้งาน เพื่อช่วยให้เครื่องไม่ต้องทำงานหนัก ดูดฝุ่นได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ในทางอ้อม ซึ่งรวมแล้วใน 1 ปีก็เป็นเงินไม่น้อยเช่นกัน

5. ตู้เย็น ตู้แช่

อันดับแรกเลยคือการตั้งอุณหภูมิพอสมควร และไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็น เพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนัก นอกจากนี้ ควรงดเว้นการเปิดตู้เย็นบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น รวมถึงตั้งตู้เย็นให้มีระยะห่างด้านข้างและด้านหลังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร ขณะที่การไฟฟ้าแนะนำว่า ตู้เย็นแบบประตูเดียวนั้นกินไฟน้อยกว่าตู้เย็นสองประตู และตู้เย็น 4 ประตู อีกด้วย

6. เครื่องซักผ้า

ควรใส่ผ้าในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและไม่น้อยเกินไป เพราะการใส่ผ้าเยอะเกินจะทำให้เครื่องทำงานหนัก ส่วนโหลดที่เล็กเกินไปทำให้เราต้องซักบ่อยโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ โหมดน้ำร้อนควรเก็บไว้ใช้สำหรับผ้าที่มีรอยเปื้อนไขมันมากๆ สำหรับการซักทั่วไปนั้นสามารถซักด้วยน้ำเย็นได้ซึ่งจะประหยัดไฟกว่า

7. ถอดปลั๊กไฟเมื่อไม่ใช้งานหลายวัน

นอกจากจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยแล้วยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย เพราะบางครั้งเวลาที่คุณปิดทีวีแต่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ มันจะยังคงใช้ไฟฟ้าอยู่ในโหมด stand by ดังนั้น นอกจากปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี หรือ โคมไฟ เมื่อไม่ใช้งานแล้ว เราแนะนำให้ถอดปลั๊กออกด้วย เมื่อคุณไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไม่อยู่บ้านหลายวัน

8. จ่ายบิลค่าไฟผ่าน App

ทิปนี้ไม่ได้ช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า แต่ช่วยลดราคาที่คุณต้องจ่ายด้วยการจ่ายเงินผ่านแอป ซึ่งไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือจ่ายผ่าน Lazada เพื่อรับส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ (20-200 บาท) ซึ่งพอรวมกันหลายๆ เดือนก็ช่วยลดค่าไฟฟ้าทั้งปีได้เยอะอยู่เหมือนกัน

9. เปิดพัดลมแทนเปิดแอร์

หากคุณไม่ได้รู้สึกร้อนจนทนไม่ไหว การเปิดพัดลมในห้องนั้นประหยัดกว่าการเปิดแอร์มาก โดยคุณสามารถเลือกพัดลมแบบตั้งพื้นราคาประหยัด และเลือกให้พัดใส่ตัวเพื่อรับลมเย็น หรือเปิดส่องแทยงมุมในห้องเพื่อช่วยให้อากาศหมุนเวียนก็จะช่วยลดอุณหภูมิในห้องได้

10. ตั้งเวลาเปิดปิดไฟอัตโนมัติ

หากคุณต้องเปิดปิดไฟที่รั้วบ้านเป็นประจำทุกวัน ในช่วงเช้าและหัวค่ำ เราแนะนำให้ติดตั้งสวิทช์หรือโคมไฟอัจฉริยะแบบตั้งเวลาได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา (ไม่ต้องเสียเวลามาเปิดปิดเอง) และยังช่วยให้คุณปิดไฟได้เร็วขึ้น เช่น ตั้งเวลาให้ปิดตั้งแต่ 05.00 น. จากเดิมที่คุณต้องลุกขึ้นมาปิดไฟตอน 6 โมงเช้า ก็จะช่วยประหยัดไฟไปได้ถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 365 ชั่วโมงต่อปีเลยทีเดียว

11. ติดตั้งโคมไฟสำหรับใช้งานเฉพาะจุด

ถ้าคุณต้องการใช้แสงไฟในพื้นที่เล็กๆ เราแนะนำให้ซื้อโคมไฟ LED เฉพาะจุด เช่น โต๊ะอ่านหนังสือ หรือเคาเตอร์ครัว ซึ่งประหยัดไฟกว่าการเปิดไฟเพดานห้อง ซึ่งมักจะต้องเปิดพร้อมกัน 2-4 ดวง สามารถลดค่าไฟฟ้าได้มากในระยะยาว

12. คำนวณค่าไฟ

วางแผนการใช้ไฟฟ้า ด้วยการสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านว่า เราใช้อะไรบ่อยที่สุด และเครื่องใช้ในบ้านของเราชิ้นไหนกินไฟมากที่สุด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรืออัพเกรดเป็นรุ่นที่ประหยัดไฟ

13. อย่าอาบน้ำอุ่นนาน

รู้หรือไม่ว่าเครื่องทำน้ำอุ่น นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดอย่างหนึ่งในบ้านของเรา การอาบน้ำอุ่นนาน 30 นาที นั้นกินไฟอย่างมาก หากทุกคนในบ้านลดระยะเวลาลงได้ครึ่งหนึ่ง ก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้เดือนละหลายร้อยบาท ในช่วงที่อากาศร้อนอาจปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไปเลยก็ได้

14. เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED

คุณคงเคยได้ยินคำแนะนำนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่เราขอย้ำอีกทีว่าให้เปลี่ยนหลอดไฟเก่ามาเป็น หลอด LED ซึ่งประหยัดไฟกว่าหลายเท่า



เทคนิคการใช้เครื่องปรับอากาศ จากการไฟฟ้า

ในประเทศเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ถ้าดูกันตามจริงแล้ว เราจะพบว่าแอร์นั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟที่สุดในหลายๆ บ้าน ดังนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) จึงได้เผยแพร่คู่มือการใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัดที่สุด ซึ่งแบ่งออกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

  • เปิดใช้แอร์เท่าที่จำเป็น
  • ติดตั้งคอมเพรสเซอร์ไว้ในร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก (ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 20%)
  • ล้างแอร์เป็นประจำ 2 ครั้ง ต่อปี
  • ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิทขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ ไม่ให้ความเย็นไหลออก
  • ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 26 – 28 องศา ไม่ควรตั้งอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา
  • ปิดเครื่องปรับอากาศก่อนออกจากห้อง 30 นาที
  • ก่อนใช้เครื่องปรับอากาศควรเปิดหน้าต่างเพื่อระบายความร้อนออกจากห้องประมาณ 15 นาที