สำหรับคนที่กำลังติดสันใจว่าซื้อ เครื่องชงกาแฟแคปซูลดีไหม และควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี ทีมงานของเราเชื่อว่า Nespresso Essenza Mini เป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับคนรักกาแฟส่วนใหญ่ที่ดื่มกาแฟวันละไม่เกิน 3 แก้ว อ่านเหตุผลของเราโดยละเอียดจากรีวิวนี้
สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อเครื่อง Nespresso เราคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อรุ่นที่แพงกว่า Essenza Mini ซึ่งเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุด เพราะไม่ว่าจะใช้เครื่อง Nespresso รุ่นไหน รสชาติและคุณภาพที่ได้นั้นไม่แตกต่างกัน ด้วยระบบแรงดัน 19 บาร์ในเครื่องทุกรุ่น
เราเชื่อว่า Essenza Mini นั้นใช้งานได้สะดวก และมีขนาดใหญ่เพียงพอแล้วสำหรับคนที่ดื่มกาแฟวันละ 1-3 แก้ว
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมี กาแฟแคปซูลยี่ห้ออื่น ที่หลายร้านในไทยนำเข้าหรือผลิตขึ้นเอง ที่ทำให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แม้ว่าบางยี่ห้ออาจยังใช้งานได้ไม่ดีเท่าแคปซูลของแท้
เครื่องเนสเพรสโซรุ่นเล็กที่ให้แรงดันในการชงกาแฟได้ไม่ต่างจากรุ่นที่แพงกว่า
เช็คราคาบน Lazada เช็คราคาบน Shopeeสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความสะดวกขึ้นอีกหน่อย เราแนะนำว่า Inissia ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย สามารถบรรจุน้ำและแคปซูลที่ใช้แล้วได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เราชอบที่เครื่อง Nespresso รุ่น Inissia มีถาดรองที่พับถาดขึ้นได้ ทำให้มันเหมาะสำหรับวางแก้วทรงสูงหรือกระติกเก็บความร้อนขนาดเล็ก ซึ่งหากคุณใช้ภาชนะเหล่านี้เป็นประจำ การเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
เครื่องอีกรุ่นที่ราคาประหยัด ใช้งานได้สะดวกกว่าด้วยถาดรองที่พับขึ้นได้
เช็คราคาบน Lazada รวมสินค้าลดราคาเพื่อให้แน่ใจว่าได้สินค้าของแท้ 100% และการรับประกันที่ถูกต้อง เราคิดว่าคุณควรซื้อจากร้าน Nespresso Official Store มากกว่าที่จะซื้อเครื่องนำเข้า ซึ่งปัจจุบันมีราคาไม่ต่างกันมากนัก
สารบัญ
- เครื่องชงกาแฟแคปซูลดีไหม
- ทำไมคุณไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่แพงกว่านี้
- เปรียบเทียบเครื่องเนสเปรสโซ
- เครื่องชงกาแฟ Nespresso ทำงานอย่างไร
- ราคาต่อ 1 แก้ว
- Nespresso vs. Dolce Gusto vs. Vertuo
เครื่องชงกาแฟแคปซูลดีไหม
เราคิดว่าเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับคนที่ต้องการดื่มกาแฟที่มีรสชาติดีในเวลาที่จำกัดและไม่ชอบการล้างทำความสะอาด
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟสดตามร้าน แต่ยังดื่มกาแฟกาแฟสำเร็จรูปที่บ้านเป็นประจำ การลงทุนซื้อเครื่องชงกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแบบไหนก็ตาม จะทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมาก
เราเชื่อว่าการมีกาแฟที่ดีดื่มที่บ้านเป็นหนึ่งในความสุขที่เรียบง่ายและอิ่มเอมที่สุดสำหรับคนรักกาแฟ
นอกจากนี้ ในด้านสุขภาพมันยังช่วยให้คุณห่างไกลจากครีมเทียมและนมข้นหวาน ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย รวมถึงรสชาติของกาแฟสำเร็จรูป
แน่นอนว่า สำหรับคนที่ซีเรียสกับรสชาติของกาแฟ กาแฟแคปซูลนั้นน่าจะเทียบไม่ได้กับเมล็ดที่บดใหม่ จากแหล่งที่ชื่นชอบ และชงด้วยเครื่องเอสเพรสโซแบบมืออาชีพ ซึ่งต้องอาศัยทักษะพอสมควร
ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับตัวเลือกเมล็ดกาแฟที่มีจำกัด ปัจจุบันแคปซูลยี่ห้ออื่นๆ ให้เลือกมากมายทั้งจากแบรนด์อย่าง Starbucks และร้านคาเฟ่ต่างๆ
เครื่อง Nespresso ยังสามารถเลือกปริมาณได้ 2 ระดับ ที่ตามปกติจะตั้งค่าไว้ให้สำหรับกาแฟขนาด Espresso และ Lungo แต่เราสามารถปรับระดับน้ำของทั้งสองปุ่มได้ตามต้องการ โดยการกดแช่ไว้และปล่อยมือเมื่อได้ปริมาณน้ำที่ต้องการ หลังจากนั้นเครื่อง Nespresso ก็จะจดจำปริมาณไว้ให้โดยอัตโนมัติในครั้งต่อไป
ทำไมคุณไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่แพงกว่านี้
เครื่องเนสเพรสโซรุ่น Essenza Mini เป็นเครื่องรุ่นที่เล็กและราคาถูกที่สุดของเนสเพรสโซ แต่ถึงอย่างนั้นระบบกลไกในการชงกาแฟแต่ละแก้วของแต่ละรุ่นนั้นไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด
Essenza Mini สามารถทำแรงดันได้ 19 บาร์ ในการชงกาแฟได้เหมือนกับรุ่นที่มีขนาดใหญ่และราคาแพงกว่าทุกรุ่น เพราะฉะนั้นกาแฟที่ได้จาก Essenza Mini ไม่ได้มีคุณภาพหรือรสชาติที่แตกต่างจากเครื่องรุ่นที่แพงกว่าอย่างแน่นอน
หากคุณไม่ได้ใช้งานมากกว่าการดื่มกาแฟวันละ 1-3 แก้ว เราแนะนำว่าอย่าเสียเงินซื้อรุ่นที่แพงกว่านี้ เพราะกาแฟที่ได้นั้นล้วนมีรสชาติเหมือนกัน
ข้อเสียอย่างหนึ่งของเครื่องรุ่น Essenza Mini ที่อาจสำคัญกับบางคน คือ ถาดรองน้ำที่ไม่สามารถพับขึ้นได้ ดังนั้นเมื่อคุณใช้ถ้วยกาแฟทั่วไปที่มีขนาดสูงและไม่สามารถวางบนถาดได้พอดี คุณจำเป็นจะต้องถอดถาดรองออกไปในการใช้งาน
ทั้งนี้ ถ้าคุณใช้ถ้วยกาแฟที่มีลักษณะเตี้ยก็จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่หากคุณคิดเคยชินหรือต้องการจะใช้แก้วที่มีทรงสูงหน่อย คุณอาจพิจารณาซื้อรุ่น Inissia (ในภาพด้านล่าง) ที่แพงขึ้นมาอีกราว 1,000 บาท และมีถาดรองที่สามารถพับหลบได้ แถมยังสามารถเก็บแคปซูลที่ใช้แล้วได้มากกว่า
- 8 ร้านขายกาแฟแคปซูล Nespresso ซื้อที่ไหนได้บ้าง
- ซื้อโทรศัพท์มือถือใน Lazada ดีไหม ทำไมจึงราคาถูก
- น้ำพุแมว ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคนเลี้ยงแมว
หลายคนอาจมองว่า ขนาดที่เล็ก ซึ่งหมายถึงการเก็บจำนวนแคปซูลที่ใช้แล้วได้น้อยกว่า และต้องเติมน้ำบ่อยขึ้น เราคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่แย่นัก เพราะในความเป็นจริง มันจะเป็นการบังคับให้เรานำแคปซูลใช้แล้วออกจากเครื่องบ่อยขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสุขอนามัย และไม่ได้เสียเวลามากจนเกินไป
นอกจากนี้ จากประสบการณ์การใช้งานของเรา เครื่องที่มีระบบตีฟองนม เช่น Citiz Milk และ Lattissima นั้นใช้งานได้ไม่สะดวก ทำฟองนมได้ไม่ดีพอ และยังทำความสะอาดให้หมดจดได้ยาก ดังนั้นหากคุณต้องการฟองนมสำหรับกาแฟ เราแนะนำให้หาซื้อเครื่องทำฟองนมแยกต่างหาก
สำหรับคนต้องการซื้อเครื่องชงกาแฟ Nespresso ไว้ใช้ในออฟฟิศหรือบ้านที่มีสมาชิกหลายคน เครื่องรุ่นที่ใหญ่กว่าก็อาจเพิ่มความสะดวก เพราะสามารถเก็บแคปซูลที่ใช้แล้วได้เยอะกว่า ไม่ต้องเติมน้ำบ่อยๆ
แต่ถ้าคุณดื่มกาแฟราว 1-3 แก้วต่อวัน Essenza Mini นั้นก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของคุณแล้ว
เปรียบเทียบเครื่องเนสเปรสโซ
Essenza Mini | Inissia | Pixie | |
ปริมาณบรรจุน้ำ | 600 ml | 700 ml | 700 ml |
ปริมาณบรรจุแคปซูลใช้แล้ว | 6 แคปซูล | 11 แคปซูล | 10 แคปซูล |
แรงดัน 19 บาร์ | ✓ | ✓ | ✓ |
ทำความร้อนใน 25 วินาที | ✓ | ✓ | ✓ |
ทำกาแฟได้ 2 ขนาด Espresso/Lungo | ✓ | ✓ | ✓ |
ราคา | 5,500 บาท | 6,500 บาท | 7,000 บาท |
ที่มา: Nespresso Official Store
การทำงานของเครื่องชงกาแฟ Nespresso
เครื่องเนสเพรสโซใช้แรงดันอัดน้ำร้อนผ่านแคปซูลอะลูมิเนียมซึ่งบรรจุเมล็ดกาแฟบดเอาไว้ จนได้ออกมาเป็นกาแฟเข้มข้นที่มีโฟมหรือ “ครีมา” (crema) อยู่ด้านบน ซึ่งคล้าย (แต่ไม่ใช่) ช็อตเอสเพรสโซ
เครื่องทำกาแฟเอสเพรซโซทำงานในหลักการคล้ายกัน แต่หากชงอย่างถูกต้องจะได้เอสเพรสโซช็อตที่มีความหนาและหนืดกว่ากาแฟจากเครื่องเนสเพรสโซ รวมทั้งแรงดัน
นอกจากนี้ คุณสามารถใช้กาแฟคั่วสดใหม่กับเครื่องเอสเพรสโซแบบปกติ ซึ่งแน่นอนว่าจะให้รสชาติที่ดีกว่า แต่ก็หมายถึงความยุ่งยากที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้น กาแฟเข้มข้นที่ได้จากเนสเพรสโซ นั้นถือว่ามีรสชาติที่ไม่แย่เลยเมื่อเทียบกับกาแฟตามคาเฟ่ส่วนมาก ในราคาที่ถูกกว่าและสะดวกกว่าการเดินทางไปร้านกาแฟ
ทีมงาน roonnhaidee แต่ละคนจะมีรสชาติที่ชอบ 2-3 แบบ ซึ่งเราคิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะหารสชาติที่ชอบได้จากแคปซูลที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากกว่า 30 ชนิด และมีความเข้มแตกต่างกันไป
ราคาต่อเครื่องดื่ม 1 แก้ว
Espresso shot ตามร้าน | Nespresso | Dolce Gusto | เครื่อง Espresso | |
ราคาต่อ 1 shot | 45-80 บาท | 19-38 บาท | 14-37 บาท | 12-16 บาท |
การเปลี่ยนมาดื่มกาแฟด้วยเครื่องแคปซูลจะช่วยประหยัดเงินได้กว่าการดื่ม Espresso shot ตามร้านกาแฟทั่วไปที่มักมีราคาอยู่ที่ 45-80 บาท แต่ก็ยังถือว่าเป็นวิธีที่แพงกว่าการชงกาแฟเองที่บ้านโดยใช้เครื่องเอสเฟรสโซ
ในแต่ละแคปซูลของ Nespresso มีเมล็ดกาแฟคั่วบดอยู่ราว 5 กรัม ซึ่งคิดเป็นราคาเท่ากับราว 1,000 บาท ต่อ 250 กรัม ซึ่งถือว่าแพงกว่าการซื้อเมล็ดกาแฟในปริมาณเท่ากันมาชงเองด้วยเครื่องเอสเพรสโซที่บ้าน
เมล็ดกาแฟคุณภาพดีส่วนใหญ่มีราคาอยู่ที่ราว 300-800 บาท ต่อ 250 กรัม ซึ่งยังมาพร้อมกับความสดใหม่และที่ต่างจากกาแฟในแคปซูลอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การชงด้วยเครื่องเอสเพรสโซต้องอาศัยทักษะ เวลา การบำรุงรักษาเครื่องมือ และการทำความสะอาดในแต่ละครั้ง ซึ่งหากคุณมีเวลาพอก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน
แต่เมื่อคิดถึงความสะดวกในการใช้งานจริงในแต่ละวันเทียบกับรสชาติของกาแฟที่ได้ ทีมงานคิดว่าเครื่องชงกาแฟ Nespresso สามารถตอบโจทย์สำหรับคนส่วนมากได้ดีกว่า
Nespresso vs. Dolce Gusto vs. Vertuo
เครื่อง Dolce Gusto ทำงานคล้ายกับเครื่อง Nespresso แต่ใช้แคปซูลที่ทำจากพลาสติก ซึ่งมีให้เลือกตามชนิดของเครื่องดื่ม เช่น เอสเพรสโซ อเมริกาโน ลาเต้ หรือคาปูชิโน
นอกจากจะถือเป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลที่เป็นที่นิยมในไทยอีกหนึ่งแบรนด์แล้ว เครื่องชงกาแฟ Dolce Gusto ยังเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือของเนสต์เล่ เช่นเดียวกับ Nespresso
อย่างไรก็ตาม ทั้งรสชาติและความสะดวก เป็นสองเหตุผลหลักที่เราเชื่อว่า Nespresso เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนชอบดื่มกาแฟส่วนใหญ่
จุดเด่นของ Dolce Gusto คือการทำเครื่องดื่มผสมนมหลากหลายชนิดในรูปแบบกึ่งสำเร็จรูป ทั้งกาแฟชนิดผสมนม และเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น ชา หรือ ช็อกโกแลตร้อน
แต่ในการทำเครื่องดื่มชนิดที่ผสมนมเหล่านี้ คุณจะต้องใช้ 2 แคปซูลด้วยกัน โดยหนึ่งแคปซูลจะเป็นการชงนมหรือฟองนมจากนมผงแปรรูปในแคปซูล ซึ่งทีมงานมองว่ารสชาติจากนมผงที่ได้ออกมานั้น ถือว่าเป็นข้อเสียอันดับหนึ่งของ Dolce Gusto
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถชงกาแฟในแบบ เอสเปรสโซ อเมริกาโน หรือกาแฟดำ ได้เช่นกัน โดยใช้เพียงแคปซูลเดียว แต่รสชาติที่ได้รวมถึงตัวเลือกของชนิดกาแฟที่มีให้เลือก ยังถือว่าด้อยกว่า Nespresso ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแรงดันสูงสุดของเครื่อง Dolce Gusto นั้นอยู่ที่ 15 บาร์ ซึ่งต่ำว่า Nespresso ที่ใช้แรงดัน 19 บาร์
นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา Nespresso ยังได้เปิดตัวเครื่องรุ่น Vertuo ในประเทศไทย ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน
เครื่อง Nespresso Vertuo นั้นเป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่พัฒนาโดยบริษัท Nespresso เช่นเดียวกัน โดยระบบ Vertuo มีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Centrifusion” ซึ่งเป็นการหมุนแคปซูลด้วยความเร็วสูงเพื่อสกัดกาแฟ ทำให้ได้กาแฟที่มีฟองนุ่ม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เครื่อง Vertuo สามารถชงกาแฟได้หลายขนาดตั้งแต่เอสเพรสโซไปจนถึงแก้วใหญ่
ทั้งนี้ แคปซูลของ Nespresso จะไม่สามารถใช้ร่วมกับ Vertuo ได้ และแคปซูลของ Vertuo นั้นจะมีตัวเลือกที่จำกัดและราคาสูงกว่าแคปซูลปกติ ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนในการดื่มกาแฟระยะยาว
ทีมงานของเราส่วนใหญ่ชอบที่เครื่อง Vertuo สามารถชงกาแฟแบบ Americano ได้อย่างสะดวก แต่ยังชอบความหลากหลายและความง่ายของ Nespresso แบบดั้งเดิมมากกว่า
เราคิดว่าในระยะยาว การลงทุนกับเครื่อง Nespresso รุ่นปกติน่าจะคุ้มค่ากว่า (และสามารถชง Americano โดยเติมน้ำเองได้) เมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นโดยรวมแล้ว
ตัวเลือกที่เราแนะนำ
เครื่องเนสเพรสโซรุ่นเล็กที่ให้แรงดันในการชงกาแฟได้ไม่ต่างจากรุ่นที่แพงกว่า
เครื่องอีกรุ่นที่ราคาประหยัด ใช้งานได้สะดวกกว่าด้วยถาดรองที่พับขึ้นได้
เพิ่มเราเป็นเพื่อน คลิกที่นี่
แนะนำดีลที่คุ้มที่สุด แจ้งเตือนเดือนละครั้ง