5 เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี แบรนด์คุณภาพสูงมาตรฐานสากล

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราแนะนำให้เลือกซื้อ 5 แบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานสากล เพื่อให้แน่ใจว่าได้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ได้รับประกันสินค้า และมีอายุการใช้งานที่นานกว่าเราเตอร์ราคาถูกที่มักมีปัญหาจุกจิกตามมา

ในยุคที่อุปกรณ์ไอทีส่วนใหญ่ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา “เราเตอร์” นั้นถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากทั้งในบ้าน คอนโด หรือออฟฟิศทุกขนาด เพราะนอกจาก router ที่ดีจะทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สะดวกแล้ว ยังรวมถึงความปลอดภัยด้านข้อมูลและความเสถียรของอุปกรณ์ smart home ต่างๆ อีกด้วย

แน่นอนว่า เราเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่กระจายสัญญาณ Wi-Fi นั้น ไม่ใช่อุปกรณ์เดียวที่มีผลต่อความเร็วอินเทอร์เน็ต (โมเด็ม Lan Switch และปัจจัยอื่นๆ ก็มีผลเช่นกัน) แต่ก็นับเป็นจุดที่สำคัญและเราสามารถอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงได้ในราคาที่ถูกลงกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งเราคิดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะ router รุ่นใหม่ๆ น่าจะใช้งานได้อีกอย่างน้อย 3-4 ปี

ปัจจุบัน มาตรฐานของการส่งสัญญาณ WiFi พัฒนาเทคโนโลยีมาถึง WiFi 6 ที่สามารถทำความเร็วได้สูงที่สุดถึง 9.6 Gbps แถมยังมีความเสถียรที่มากกว่าคลื่น WiFi แบบเก่า ขณะที่เราเตอร์เองก็มีให้เลือกมากกว่าเดิม ทั้งแบบ Single-band และ Dual-band ที่สามารถกระจายสัญญาณได้ทั้งแบบ 2.4GHz และ 5GHz ซึ่งได้รับความนิยมในการใช้งานมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับคนที่กำลังเลือกซื้อเราเตอร์ใหม่ เราแนะนำให้เลือกจากยี่ห้อชั้นนำที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และสามารถไว้ใจได้ว่าจะมีอายุการใช้งานที่นานกว่า มีประสิทธิภาพในการใช้งานเบื้องต้นที่ดี และคุ้มค่ากับการอัพเกรด โดย 5 ยี่ห้อที่เราแนะนำมีดังนี้


1. TP-Link

อันดับหนึ่ง เราเลือกแนะนำ TP-Link ซึ่งเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในรีวิวเราเตอร์ใส่ซิมของเรา ซึ่งจุดเด่นของเราเตอร์ยี่ห้อนี้ ได้แก่ ความสะดวกและเสถียรในการใช้งาน ตั้งแต่การติดตั้ง ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย ไปจนถึงประสิทธิภาพในการใช้งานประจำวัน ที่เรียกได้ว่าไม่จุกจิก ทนทาน ใช้งานได้ตามมาตรฐาน โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเป็นพิเศษ

รุ่นที่เราเลือกแนะนำได้แก่ Archer-AX55 ที่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 มาตรฐาน AX3000 ทำให้คุณใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้านได้เร็วและเสถียร เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก-กลางที่มีผู้อาศัย 4-5 คน รองรับการใช้งานพร้อมกันได้หลายเครื่องมากขึ้น และด้วยเสาสัญญาณถึง 4 เสา ช่วยให้อินเทอร์เน็ตกระจายสัญญาณได้ครอบคลุมทั่วทั้งบ้าน ซึ่งตามการทดสอบของเว็บไซต์รีวิวในต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าส่งสัญญาณได้ไกลและเสถียรกว่ารุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน

นอกจากจะรองรับเทคโนโลยี WPA3 เพิ่มที่ความปลอดภัยแล้ว ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานของลูกหรือเด็กๆ ในครอบครัวได้ด้วย TP-Link HomeShield และยังรองรับ OneMesh ในกรณีที่ต้องการใช้ mesh Wi-Fi สำหรับราคาของ TP-Link ARCHER-AX55 นั้นอยู่ที่ 2,690 บาท (ราคาร้าน Official ใน Lazada)


2. Mercusys

มาถึงแบรนด์ถัดมากันสำหรับแบรนด์ Mercusys ที่บางคนก็อาจจะยังไม่คุ้นชื่อกันนะครับ สำหรับแบรนด์นี้นั้นเป็นแบรนด์ในเครือเดียวกันกับ TP-Link แต่เป็นแบรนด์ที่มาพร้อมกับราคาย่อมเยากว่า TP-Link และยังคงเชื่อมั่นในคุณภาพได้อยู่เหมือนเดิม

ส่วนรุ่นที่เราจะหยิบยกมาแนะนำให้กับทุกคนกันนั่นก็คือรุ่น MR70X ซึ่งเป็นเราเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AX1800 ความเร็วสูงสุดที่รอวรับอยู่ที่ 1.8 Gbps มีเสากระจายสัญญาณ 4 ตัวที่ช่วยให้กระจายสัญญาณได้ดีและทั่วถึงมากขึ้น รองรับเทคโนโลยีความปลอดภัย WPA3 รองรับเทคโนโลยี Smart Connect เลือกช่องสัญญาณที่ดีที่สุดให้คุณทันที โดย Mercusys MR70X มาในราคาจำหน่ายที่ 1,960 บาท (ราคาเฉลี่ยร้าน LazMall)


3. ASUS

เป็นแบรนด์เราเตอร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเล่นเกม เพราะเราเตอร์ของ ASUS ในซีรี่ส์ TUF Gaming นั้นออกแบบมาเพื่อตอบสนองความรวดเร็วในการเล่นเกมส์ที่เต็มประสิทธิภาพกว่าเร้าเตอร์แบรนด์อื่นๆ

โดยเราเตอร์รุ่นที่เรายกมาแนะนำคือ TUF Gaming AX5400 นั้นรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AC5400 ที่รองรับความเร็วสูงสุดถึง 5.4 Gbps มาพร้อมกับเสากระจายสัญญาณถึง 6 ตัว ที่กระจายสัญญาณได้ดีและทะลุทะลวงกว่าใครเพื่อน รองรับเทคโนโลยีการรวมสัญญาณ Multi-Gigabit ทำให้สตรีมหรือเล่นเกมออนไลน์ได้เสถียรมากยิ่งขึ้น และยังรองรับ Mesh WiFi ด้วยเช่นกัน สามารถตั้งค่าเป็นโหมด Mobile Game เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณในการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าจัดเต็มมาเพื่อคอเกมและเหมาะกับบ้านที่มีจำนวนสมาชิกหลายคน โดยราคาของ ASUS TUF Gaming AX5400 นั้นอยู่ที่ 5,790 บาท จากร้านดังอย่าง Ivory IT Shop


4. D-Link

อีกหนึ่งแบรนด์ยอดนิยมในหมู่ผู้ใช้งาน Router สำหรับแบรนด์ D-Link ซึ่งไว้ใจได้ในเรื่องคุณภาพการผลิต การรับประกันศูนย์ไทย ในราคาประหยัดคุ้มค่า แม้จะมีตัวเลือกรุ่นน้อยกว่า TP-Link และดีไซน์ที่อาจไม่ทันสมัยนัก

สำหรับรุ่นที่เราจะนำมาแนะนำกับทุกคนนั่นก็คือรุ่น DIR-X1870 ที่เป็นเร้าเตอร์ไวไฟสำหรับบ้านขนาดกลางราคาย่อมเยา โดยมาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AX1800 โดยตัวเร้าเตอร์รองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1.8 Gbps มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดดีเลย์ในการสตรีมคอนเทนต์ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ตั้งค่าในการใช้งานครั้งแรกอย่างง่ายดาย และยังรอบรับเทคโนโลยี D-Link WiFi Mesh เชื่อมต่อได้อย่างไม่สะดุด (เมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์ Mesh Wi-Fi ที่รองรับ) สามารถกระจายสัญญาณได้ดีกว่าเราเตอร์ Wi-Fi 5 ถึง 4 เท่า เช็คราคาของ DIR-X1870 ทางร้าน D-Link Official บน Lazada


5. Linksys

มาถึงแบรนด์สุดท้ายกันแล้วกับ Linksys ที่หลายคนก็อาจจะคุ้นเคยกันดี เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คุณภาพกับราคานั้นดีมากเลยเดียว โดยรุ่นที่เราจะหยิบยกมาแนะนำในวันนี้ก็คือรุ่น MR7350 โดยรุ่นนี้นั้นรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AX1800 ที่ความเร็วสูงสุด 1.8 Gbps เหมาะกับการใช้ในบ้านขนาดกลางและสมาชิกในบ้านที่ชอบทั้งเล่นเกม สตรีมคอนเทนต์ หรือใช้ทำงานแบบไร้สาย ความเร็วรองรับการทำงานอย่างครบครันแน่นอน

ถึงแม้ว่า MR7350 จะมาเพียงแค่สองเสา แต่ก็สามารถกระจายสัญญาณได้กว้างและรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 25 เครื่อง รองรับเทคโนโลยี Mesh Wi-Fi ร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่รองรับเทคโนโลยี ช่วยให้กระจายสัญญาณได้ทั่วบ้านมากขึ้น ตั้งค่าเริ่มต้นใช้งานง่าย มีระบบจัดการและป้องกัน รองรับการสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่น Linksys ที่ช่วยให้คุณจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ควบคุมการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น โดย Linksys MR7350 นั้นมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,990 บาท บน Shopee


ณัฐวัฒน์ เสริฐพรรนึก

ณัฐวัฒน์ เสริฐพรรนึก

นักเขียนที่สรรหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตใหม่ๆ ในทุกวัน ชอบเที่ยว ชอบเล่นเกม ชอบฟังเพลง ชอบไปคอนเสิร์ตเกาหลี และชอบที่จะอยู่บ้านอย่างสงบสุขกับคนที่รัก