Flash Drive รุ่นไหนดี ยี่ห้อไหนดีที่สุด วิธีเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ

สำหรับคนที่กำลังเลือกซื้อ Flash Drive รุ่นไหนดี ยี่ห้อไหนใช้งานได้ดีที่สุด ทีมงานรุ่นไหนดีเชื่อว่า SanDisk Ultra USB 3.0 ขนาด 32 GB เป็นรุ่นที่เหมาะที่สุดสำหรับการใช้งานของคนส่วนใหญ่ หลังจากการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ แฟลชไดร์ฟ (Flash Drive) กว่า 48 ชั่วโมง

นอกจากความเร็วในการรับ-ส่งไฟล์ ราคา และดีไซน์ที่ใช้งานได้สะดวกแล้ว แฟลชไดร์ฟ รุ่น Sandisk Ultra ยังมีขนาดที่เล็กพอสำหรับพกพาได้สะดวก และใหญ่พอที่จะไม่สูญหายได้ง่าย

ข้อสำคัญ เราคิดว่า “หากคุณจะเสียเงินซื้อแฟลชไดร์ฟสักอัน อย่าซื้อรุ่นที่เป็น USB 2.0” และให้เลือกซื้อรุ่นที่เป็น USB 3.0 ซึ่งราคาปัจจุบันแทบจะไม่แตกต่างกัน

แต่หากคุณต้องย้ายไฟล์ขนาดใหญ่อยู่บ่อย ๆ และรู้สึกเสียเวลารอในแต่ละครั้ง เราแนะนำให้ลงทุนซื้อแฟลชไดร์ฟที่รองรับ USB 3.0 และไม่ควรเสียเงินซื้อไดร์ฟ USB 2.0 ถึงแม้จะมีราคาถูกกว่ามาก เพราะประสิทธิภาพนั้นแทบไม่ต่างจากแฟลชไดรฟ์ที่คุณหาได้ฟรีทั่วไปจากงานต่าง ๆ

เราแนะนำรุ่นที่มีขนาด 32 GB เพราะเชื่อว่าเป็นความจุที่เหมาะกับการใช้งานสำหรับคนส่วนมาก ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลาลบไฟล์เก่าเพื่อเคลียร์พื้นที่บ่อยจนเกินไป และมากพอสำหรับย้ายไฟล์วิดีโอสำหรับการทำงานหนึ่งโปรเจคต์ หรือซีรีส์ 1 ซีซั่น แต่ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกรุ่นที่มีความจุมากกว่านี้ให้เหมาะกับการใช้งานได้

สำหรับคนที่ต้องย้ายไฟล์ขนาดใหญ่เป็นประจำ คุณอาจลงทุนเพิ่มด้วยการซื้อแฟลชไดร์ฟ SanDisk Extreme GO USB 3.1 ความจุ 128 GB ที่มีความเร็วสูงขึ้นอีกหลายเท่า และเป็นรุ่นที่เว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่งยกให้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง


สารบัญ

  • คุณควรซื้อแฟลชไดร์ฟใหม่หรือไม่ ?
  • ความเร็วของแฟลชไดร์ฟ
  • USB 2.0 กับ USB 3.0 ต่างกันอย่างไร
  • Flash drive ยี่ห้อไหนดี ?
  • แฟลชไดร์ฟ รุ่นอื่น ๆ

คุณควรซื้อ Flash Drive ใหม่หรือไม่ ?

แฟลชไดร์ฟ ยังคงเป็นตัวเลือกที่สะดวกที่สุดในการย้ายไฟล์ขนาดใหญ่ ซึ่งดีกว่าการส่งไฟล์ผ่านอีเมล WeTransfer หรือ Google Drive ที่ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตและใช้เวลานานกว่า ขณะที่ Gmail นั้นส่งไฟล์ได้ขนาดใหญ่สุดเพียง 25 Mb เท่านั้น

ถ้าคุณโอนย้ายข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์นานๆ ครั้ง คุณสามารถใช้แฟลชไดร์ฟราคาถูกทั่วไป หรือที่ได้มาฟรีจากที่ต่าง ๆ (หรือที่มีคนวางทิ้งไว้) โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ flash drive รุ่นที่เราแนะนำในบทความนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงที่ข้อมูลอาจสูญหายเพราะแฟลชไดรฟ์แจกฟรีราคาถูกเหล่านี้มักเสียหายได้ง่าย

แต่หากคุณใช้แฟลชไดร์ฟเฉลี่ยวันละ 1 ครั้งขึ้นไป และรู้สึกเสียเวลารอในการโอนย้ายไฟล์แต่ละครั้ง การซื้อแฟลชไดร์ฟรุ่นที่เราแนะนำน่าจะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า


ความเร็วของ Flash Drive 3.0

ระยะเวลาในการย้ายไฟล์ของแฟลชไดร์ฟขึ้นอยู่กับความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลผ่านพอร์ต USB ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ โดยคุณจะพบว่าแฟลชไดร์ฟแบบ USB 3.0 นั้นจะช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก

คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี USB 3.0 และถึงแม้คอมพิวเตอร์ที่คุณใช้อยู่จะมีพอร์ทที่รองรับแค่ USB 2.0 การเปลี่ยนมาใช้ไดร์ฟ USB 3.0 ก็ยังช่วยเพิ่มความเร็วได้เช่นกัน

เวลาที่ต่างกันเพียงไม่กี่นาที บางครั้งนั่นคือความแตกต่างระหว่าง “ต้องรอ” กับ “ไม่ต้องรอ” ซึ่งทีมงานรุ่นไหนดีเชื่อว่า หากคุณจะลงทุนซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีแล้ว มันควรจะช่วยให้คุณทำงานหรือใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ ถ้า flash drive ที่คุณใช้งานอยู่ยังคงเป็นรุ่น USB 2.0 การเปลี่ยนมาใช้รุ่นที่เราแนะนำจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในแง่ความเร็วในการโหลดและเซฟไฟล์



USB 2.0 กับ USB 3.0 ต่างกันอย่างไร

ข้อแตกต่างของเทคโนโลยี USB 2.0 และ USB 3.0 คือความเร็วในการรับส่งข้อมูล

เทคโนโลยี USB 2.0 เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2000 ก่อนที่เทคโนโลยี USB 3.0 ซึ่งมีแถบสีน้ำเงินบนพอร์ทเป็นสัญลักษณ์ จะถูกพัฒนาขึ้นในปี 2008 โดยมีความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า

USB 3.0 ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น USB 3.1 Gen 1 นอกจากนี้ยังมี USB 3.1 Gen 2 ซึ่งรองรับความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงขึ้นไปอีกกว่า 4 เท่า

ในโลกความเป็นจริง ความเร็วของ Flash drive USB 2.0 ที่แจกฟรีหรือหาได้ทั่วไปมักมีความเร็วอยู่ที่ราว 2-6 MB / วินาที ขณะที่ SanDisk Ultra 32GB USB 3.0 CZ48 ที่เราแนะนำมีความเร็วอยู่ที่ราว 40-50 MB / วินาที

USB 2.0 USB 3.0 
ความเร็วสูงสุด 35-40 MB/วินาที 300 MB/วินาที
เวลาที่ใช้ย้ายไฟล์ขนาด 4 GB 14 นาที 1 นาที 7 วินาที

ที่มา: Kingston


Flash drive ยี่ห้อไหนดี ?

เราไม่สามารถบอกได้ว่า แฟลชไดรฟ์ยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่จากการหาข้อมูลตามเว็บไซต์ เว็บไซต์รีวิวสินค้าชั้นนำในต่างประเทศ เช่น The Wirecutter, Lifewire และ Trusted Reviews  ต่างก็เลือกแนะนำยี่ห้อ Sandisk เป็นตัวเลือกในอันดับ 1 หรือใน 10 อันดับแรก

อย่างไรก็ตาม Sandisk รุ่นที่หลายเว็บไซต์ในต่างประเทศแนะนำได้แก่ Sandisk Extreme CZ80 ในไทยนั้นมีราคาสูงถึงประมาณ 1 พันบาท (สำหรับขนาด 16 GB) ซึ่งทีมงานมองว่าเป็นการลงทุนที่แพงเกินไปสำหรับคนส่วนใหญ่

ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง ยังหมายถึงความรับผิดชอบในคุณภาพสินค้าของบริษัทเอง ซึ่งนั่นน่าจะหมายถึงการลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับไฟล์ของคุณ ซึ่งนั่นนับเป็นปัจจัยหนึ่งที่คุณควรซื้อแฟลชไดร์ฟจากยี่ห้อชั้นนำอย่าง Sandisk, Samsung, Kingston หรือ Verbatim


แฟลชไดร์ฟ รุ่นอื่น ๆ

Samsung Fit

USB drive ของ Samsung รุ่นนี้เป็นรุ่นแนะนำของเว็บไซต์ในต่างประเทศหลายแห่ง เป็นแฟลชไดร์ฟ USB 3.0 ที่มีความเร็วสูงและขนาดเล็กมาก แต่ด้วยราคาในไทยที่สูงกว่าในต่างประเทศ (ประมาณ 700-800 บาท สำหรับความจุ 32 GB) ทีมงานคิดว่ายังไม่คุ้มค่าเท่ากับรุ่นที่เราแนะนำ

นอกจากนี้ ขนาดที่เล็กเกินไปอาจทำให้สูญหายง่าย แฟลชไดร์ฟ ของ Samsung รุ่นนี้จึงเหมาะกับคนที่จำเป็นต้องการแฟลชไดร์ฟขนาดเล็กไว้สำหรับเสียบกับเครื่องเสียงในรถยนต์ หรือ ใช้เสียบคาไว้เป็นฮาร์ดดิส์เสริมสำหรับแลปท็อป

Kingston DataTraveler G4 USB 3.0

แฟลชไดร์ฟรุ่นยอดนิยมของ Kingston มาพร้อมกับ USB 3.0 แต่ด้วยการออกแบบที่มีฝาปิด และวัสดุที่ใช้งานทำให้ทีมงานรู้สึกว่าไม่สะดวกในการใช้งาน เพราะต้องเสียเวลาเปิดปิดฝาและฝาก็หล่นหายได้ง่าย นอกจากนี้ด้วยราคาประมาณ 400-500 บาท เราจึงแนะนำ SanDisk Ultra CZ48 มากกว่า

Sandisk Ultra Fit

สำหรับคนที่ต้องการแฟลชไดร์ฟขนาดเล็ก ยังมี Sandisk Ultra Fit ซึ่งเป็นแฟลชไดร์ฟ USB 3.0 ขนาดใกล้เคียงกันในราคาประมาณ 400 บาท ซึ่งอาจจะตอบโจทย์แบบเดียวกัน

SanDisk Cruzer Glide CZ60

SanDisk CRUZER GLIDE CZ60 มีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับรุ่นที่เราแนะนำ แต่รองรับแค่ USB 2.0 เราจึงไม่แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้ ถึงแม้จะมีราคาถูกเพียงประมาณ 200 บาท (สำหรับขนาด 16 GB) เช่นเดียวกับ Sandisk Cruzer Blade ราคาถูกที่มีให้เลือกหลายสีแต่ไม่รองรับ USB 3.0

หากคุณต้องการใช้งานพื้นที่เก็บไฟล์มากกว่า 500 GB ขึ้นไป เราแนะนำให้คุณอ่านรีวิว External HDD รุ่นที่ดีที่สุดของเรา


ตัวเลือกที่เราแนะนำ

OUR PICK SanDisk Ultra USB 3.0
SanDisk Ultra USB 3.0

รุ่นที่เหมาะที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่

UPGRADE PICK SanDisk Extreme GO USB 3.1
SanDisk Extreme GO USB 3.1

อัพเกรดสำหรับการใช้งานแบบจริงจัง